
Paul Simonon (bass)
Paul Simonon (bass) พอลคือหนึ่งในมือ Bass ไม่กี่คนที่มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น การเล่นที่ประสานกับกลองได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเป็นคนช่วยแต่งทำนองในหลากหลายเพลงดังอีกด้วย
Paul Simonon (bass) พอลคือหนึ่งในมือ Bass ไม่กี่คนที่มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น การเล่นที่ประสานกับกลองได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเป็นคนช่วยแต่งทำนองในหลากหลายเพลงดังอีกด้วย
Mick Jones (lead guitar) ด้วยฝีมือในการเล่นกีต้าที่หาคนจับตัวได้ยาก ในสมัยนั้น Mick Jones นั้นมีเทคนิคในการเล่นที่แปลกใหม่ และด้วยมาดที่กวน ผสมกับความขี้เล่นเขาจึงได้รับความนิยมจากสาวๆ เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนั้น แม้จะแก่ตัวไปบ้างแต่ฝีมือนั้นยังจัดจ้านเฃ่นเดิม
Topper Headon (drums) สุดยอดมือกลองมือฉมังที่ร่วมกันก่อตั้ง The Clash กับ joe นับได้ว่าฝีมือของเขานั้นอยู่ในระดับต้นๆของวงการเลยทีเดียว และเขานั้นยังชื่นชอบในดนตรีคลาสสิค และออเครสต้าอีกด้วย ในปัจจุบัน แม้จะอายุเยอาะแล้วก็แตฝีมือก็ยังเทพเช่นเดิม
Joe Strummer (vovals) โจคือนักร้องนำของวง The Clash ที่ถือได้ว่าเป็น Leadder ของวง ในช่วงแรกของการตั้งวงนั้น หากไม่มีโจแล้วละก็วงคงไปไม่ได้ไกลภึงขนาดนี้ ในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในเส้นทางนักร้องของโจนั้น แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เขานั้นก็ยังได้ รับรางวัลและได้รับการเสนอชื่อเข้า Rock and Roll Hall of Fame
ในปี 1911 “The Singles by The Clash” นั้นได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่มียอดขายดีที่สุด ด้วยบทเพลงในอัลบั้มที่แต่ง และเรียบเรียงมาอย่างดี เนื้อหาที่ สนุดสนานปนเสียดสีสังคม นับว่าเป็นอัลบั้มในดวงใจเช่นกัน
เป็นอัลบั้มที่บันทึกการแสดงสดของวง The Clash ในตอนที่พวกเข้านั้นไปแสดงที่ “Live At Shea Stadium” นั่นเอง
โลดแล่นอยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน “From Here To Eternity” เป็นอัลบั้มที่แสดงถึงพัฒนาการของสมาชิกในวงได้เป็นอย่างดีแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในบางครั้ง แต่เอกลักษณืของวงนั้นไม่เคยหมดไป “Guns of Brixton” คือเพลงที่ดึงความเป็น Punk ออกมาได้เป็นอย่างดี
“The Magnificent Seven” นับว่าเป็นเพลที่ชผู้เขียนนั้นชื่นชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ปัจจุบันก็ยังฟังอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นเพลงที่มีแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ เบส และกลองนั้นประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยม แนะนำว่าอัลบั้มนี้คู่ควรสำหรับการเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง The Story Of The Clash, Volume 1 นั้นออกมาในปี 1988
อาจจะเป็นอัลบั้มที่มีดนตรีหนักหน่วงที่สุด “Cut The Crap” ซึ่งออกมาในปี 1985 โดยในอัลบั้มนี้จัดได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ไม่น้อย ด้วยทำน้องที่เน้นจังหวะความสนุกมากขึ้น การประสานเสียงร้องที่ทำได้อย่างลงตัว โดยอย่างยิ่งเพลง “We Are The Clash” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย นับได้ว่าเป็นเพลงที่สื่อถึงตัวตนของวงได้เป็นอย่างดี
มาต่อกันที่ Give ‘Em Enough Rope ที่ออกมาในปี 1978 ถือว่าเป็นอัลบั้มที่เน้นไปที่ดนตรีแนวฟังก์ ที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคมอยู่ไม่น้อย แต่อัลบั้มนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะเพลง “All the Young Punks” ที่ถือว่ามีทำนองดนตรีลูก Solo ที่โดดเด่น และเนื้อหาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
Copyright © 2023 | WordPress Theme by MH Themes